วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

Marseille1 -2 Liverpool


UCL : Marseille 1 - 2 Liverpool

ราฟาเอล เบนิเตซ นำพลพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บินมาเยือนแดนน้ำหอมด้วยความมั่นใจหลังเก็บ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไน เต็ด คู่ปรับในพรีเมียร์ลีก โดยเกมนี้ทีมเยือนจากเมืองผู้ดีได้ทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส กลับมาช่วยทีม ส่วน ไรอัน บาเบล ถูกเติมลงมาช่วยเกมริมเส้น ด้าน เอริค เกเรตส์ ส่ง ฮาเตม เบน อาร์ฟา ช่วยประสานเกมรุกกับ บาการี โกเน และ มามาดูเนียง

เริ่มเกมการแข่งขัน ทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามเข้าใส่กัน แต่นาทีที่ 5 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนเมื่อได้ลูกเตะมุมทางซ้าย สตีเวน เจอร์ราร์ด หยอดไปเสาแรก มามาดู เนียง ลงมาช่วยเกมรับแต่ดันโหม่งเช็ดพลาดไปเสาสองให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ได้โขกแบบโหนๆ ร้อนถึง สตีฟ ม็องดองดา ต้องปัดบอลพ้นคานไป มาร์กเซย์ ก็ เริ่มตั้งตัวติด ฮาร์เตม เบน อาร์ฟา แทงทะลุกับดักล้ำหน้าให้ เนียง ขึ้นไป ยิงด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาแรกไป

ผ่าน 15 นาทีแรก "หงส์แดง" พลาดโอกาสบินนำไปอย่างน่าเสียดาย เดิร์ค เคาท์ เปิดจากขวาเข้ากลางให้ ไรอัน บาเบล พลิกหนีกองหลังเจ้าถิ่นก่อนตะบันด้วยขวาเหินข้ามคานออกไป ทีมเยือนเดินเกมอย่างต่อเนื่อง เคาท์ เล่นชิ่งเร็วให้ เจอร์ราร์ด หวดเน้นๆ ด้วยขวาแต่ ม็องดองดา ปัดพ้นโคนเสาไปได้หวุดหวิด แต่ถึงนาที ที่ 23 เป็น "โอแอม" ที่ออกนำก่อน 1-0 บรูโน เชย์รู กระดกบอลหลุดกับดักล้ำ หน้าให้ ลอริค กานา หลุดไปแปบอลผ่าน โฮเซ เรนา เข้าไปตุงตาข่าย

ทว่าสามนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ตามเสมอ 1-1 ทันควัน ตอร์เรส ฉกบอลได้จากกลางสนามแทงออกขวาให้ เคาท์ เปิดเข้ากลาง เจอร์ราร์ด ตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลลอยเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ในขณะที่ ม็องดองดา ได้แต่ ป้องกันด้วยสายตา นาทีที่ 32 "หงส์แดง" พลิกนำ 2-1 เมื่อ ไรอัน บาเบล โดน โรนัลด์ ซูบาร์ เหนี่ยวล้มในเขตโทษ เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เจ้าถิ่นพยายามสวนกลับคืน ตาเย ไตโว เปิดจากกราบ ซ้ายให้ เนียง สไลด์จิ้มบอลออกข้าง ท้ายครึ่ง มาร์กเซย์ แก้เกมส่ง มาติ เยอ บัลบูเอนา ลงมาเล่นแทน โมเดส เอ็มบามี แต่จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านยัง เป็นฝ่ายตามหลัง

ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง มาร์กเซย์ เดินหน้าเปิดเกมบุกเพื่อทวงประตูคืนทันที แต่ก็เกือบโดนเกมสวนกลับของ ลิเวอร์พูล เล่นงาน ตอร์เรส โหม่งเช็ดต่อให้ เจอร์ราร์ด หลุดเข้ากรอบโทษกำลังจะพลิกยิงแต่ ซูบาร์ เข้ามาสกัดได้ฉิวเฉียด เมื่อเกม ไม่ดีขึ้น เกเรตส์ ต้องปรับหมากอีกครั้งด้วยการส่ง คาริม ซิอานี มาเล่น แทน เบน อาร์ฟา ที่ดูเงียบไป นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นให้แฟนๆ ได้ลุ้นเก้อ บากา รี โกเน ตวัดยิงด้วยซ้ายในกรอบโทษส่งบอลเหินข้ามคานไปพอสมควร หนึ่งชั่วโมง ผ่านไป "โอแอม" ได้ลุ้นจากลูกโขกลูกเตะมุมเหน่งๆ ของ วิคตอริโอ ฮิลตัน แต่ บอลพุ่งไปตรงตัว เรนา

เกมดูเนือยๆ ไป ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับเปลี่ยนเอา ตอร์เรส ซึ่งยังไม่ฟิตเต็มร้อยออกมาพร้อมกับให้ อัลเบิร์ต ริเอรา ลงไปกระชากลากเลื้อยเติมสีสันในเกมรุกบ้าง แต่เกือบโดน มาร์กเซย์ ตามเสมอ อีกครั้ง โกเน ตอกส้นให้ ซิอานี ได้ตะบันเต็มๆ ข้ามคาน ช่วง 20 นาทีท้าย ลิเวอร์พูล ถอดเอา เจอร์ราร์ด ออกมาพักให้ ยอสซี เบนายูน ลงมาคุมเกมแทน นาทีที่ 75 "หงส์แดง" ทิ้งโอกาสปิดกล่อง ริเอรา ปาดจากกราบซ้าย เบนายูน เข้าชาร์จพลาดหลุดมาให้ บาเบล ได้ซัดจ่อๆ บอลพุ่งไปติดมือ ม็องดองดา อย่างเหลือเชื่อ

ท้ายเกม มาร์กเซย์ ทำเกมบุกหนักและก็ได้ลุ้นทิ้งท้าย เนียง ทั้งโหม่งทั้งยิงไปติด เรนา ที่โชว์ซูเปอร์เซฟ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ประเดิมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำฤดูกาล 2008/09 ด้วยชัย ชนะ 2-1 เก็บสามแต้มเข้ากระเป๋าเป็นประเดิม รั้งรองจ่าฝูงกลุ่มดี โดยมี " ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด นั่งจ่าฝูง หลังจากที่ทีมดังจาก ลา ลีกา สเปน บุก ถล่ม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน แชมป์จากฮอลแลนด์ ราบคาบ 3-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่น ตัวจริงของทั้งสองทีม

มาร์กเซย์
สตี ฟ ม็องดองดา , โลรองต์ บงนาร์ , โรนัลด์ ซูบาร์ , วิคตอริโอ ฮิลตัน , ตา เย ไตโว , ลอริค กานา , โมเดส เอ็มบามี , บาการี โกเน , บรูโน เชย์รู , ฮา เตม เบน อาร์ฟา , มามาดู เนียง

ลิเวอร์พูล
โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อันเดรีย ดอสเซนา , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ลูคัส เลวา , เดิร์ค เคาท์ , เฟอร์นานโด ตอร์เรส , ไรอัน บาเบล

ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/sport


ข่าวประจำวันที่ : 17 กันยายน 2551

ราฟายันไม่กังวลคู่หัวหอกปืนฝืด


ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยันไม่กังวลกับปัญหาปืนฝืดของ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ร็อบบี้ คีน คู่หัวหอก แม้ทั้ง 2 คนเพิ่งยิงรวมกันได้แค่ลูกเดียวก็ตาม ชี้กองหน้าทีมชาติสเปน ยังล้าจากศึกยูโร 2008 และจะกลับมามั่นใจอย่างเต็มที่หากคลำเป้าเจอ


รา ฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า เขาไม่กังวลใจแต่อย่างใดกับปัญหาปืนฝืดของ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ร็อบบี้ คีน คู่หัวหอกของทีม ในเวลานี้ แม้ทั้งคู่เพิ่งทำประตูรวมกันได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่เปิดฤดู กาลนี้ก็ตาม


ตอร์เรส เพิ่งยิงไปเพียง 1 ประตู ขณะที่ คีน ยังทำไม่ได้เลย นับตั้งแต่ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องพลาดเก็บ 3 คะแนนเต็มอย่างน่าเสียดาย ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ทำได้เพียงเสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เบนิเตซ มั่นใจว่าทั้งคู่จะกลับคืนฟอร์มถล่มประตูอีกครั้งในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน


"ตอร์เรส กลับมาจากศึกยูโรล่าช้ากว่าปกติ 1 เดือน และจำเป็นจะต้องใช้เวลาสร้างความแข็งแกร่งและความฟิต มันช่วยไม่ได้ แต่อีกปัญหาหนึ่งในเกมกับ สโต๊ค คือเขาไม่มีพื้นที่และถูกกดดันอยู่ตลอดเวลา ความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองหน้าทุกคนเมื่อเขายิงประตูไม่ได้ และมันชัดเจนว่า ตอร์เรส และ คีน ต้องการประตู เมื่อมันเกิดขึ้นคุณจะได้เห็นความแตกต่างอย่างแท้จริง" เบนิเตซ กล่าว

Liverpool 0-0 Stoke City

Premierleague : Liverpool 0 - 0 Stoke City


Premierleague : Liverpool 0 - 0 Stoke City
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : -

แค่นาทีที่ 2 ลิเวอร์พูล น่าจะขึ้นนำสุดๆเมื่อเจอร์ราร์ด ปั่นฟรีคิกจากริมเส้นบอลพุ่งผ่านตอร์เรส ที่โขกไม่ถึงไม่ถึงบอลทะลุเสียบตาข่ายเสาสองสุดสวยแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าเดิร์ก เคาท์ ที่ดันวิ่งเอาเท้าแหย่จะเล่นในระยะเผาขนไปซะงั้น

อีก 4 นาทีชาบี้ อลอนโซ ไปเล่นยากทำบอลเสียหน้าประตูระยะ 35 หลาคิตสันเลยฉกยิงไกลบอลข้ามคานออกไปแบบเสียววาบ

นาทีที่ 7 เคาท์ หลุดขึ้นมาตรงกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตบให้ร็อบบี้ คีน วิ่งมาแปเน้นๆ 8 หลาแต่บอลไม่แรงเลยเข้าซองโซเรนเซ่นง่าย

เกมเป็นของ"หงส์แดง"อยู่ข้างเดียวส่วนทีมเยือนเน้นรับและคอยเตะเคลียร์ทิ้งแบบบอลวัดเอาชัวร์ไว้ก่อน

ตอนนี้เกมของลิเวอร์พูล เล่นอย่างอดทนคอยต่อบอลกันไปมาเพราะสโต๊คลงไปรับกันเกือบหมดโดนเกมริมเส้นด้านซ้ายของเจ้าถิ่นทั้งดอสเซนน่ากับริเอร่า ยังพอไปไหวส่วนฝั่งขวาเคาท์ และอาร์เบลัว ยังสบโอกาสไม่ค่อยได้ยกเว้นลูกที่หอกนักวิ่งตบบอลกลับให้คีโน่ยิงลูกนั้น

เด อะค็อปชักอึดอัดเพราะโอกาสยิงประตูของเจ้าถิ่นเริ่มไม่มีแล้วทำได้แค่ครอง บอลไปมาแล้วมาเสียจังหวะสุดท้ายโดยที่ตอร์เรส กับคีโน่แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมและนาที 27 ดอสเซนน่าแปะให้ริเอร่า ซัดนอกเขตบอลติดไซด์ปลิ้นออกสามเหลี่ยมไปเอง

อีก 2 นาทีเจอร์ราร์ด ลักไก่เตะมุมสั้นเร็วให้อลอนโซ วิ่งมายิงติดไซด์นอกเขตเลี้ยวเข้าเบียดเสาแรกแต่โซเรนเซ่นประสานมือทุบออกหลังนิดเดียว

นาที 34 หลังต่อบอลไปมาจนไม่ได้ทำอะไรซักทีเจอร์ราร์ด เลยยิงไกลบอลบดถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นช่วงท้ายเกมเอกราชร้อง ตื่นเต้นนึกว่ามีอะไรที่แท้ทีมเยือนได้ทุ่มและเป็นรอลี่ ดีแลบปจอมทุ่มไกล ทุ่มเข้าเขตโทษแต่เรน่า กระโดดคว้าติดหนึบสองมือ

จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ ลิเวอร์พูล เสมอกับสโต๊คไป 0-0 ในแบบที่ว่าครึ่งหลังต้องระวังลูกเซ็ตพีซโป้งเดียวจอด

ครึ่งหลังเริ่มมาแค่นาทีเดียวแนวรับลิเวอร์พูล พลาดปล่อยให้ลูกเปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเลยมาเสาสองแต่ลอเรนซ์ดันยิงแป๊กออกหลังสุดช็อก

นาที 51 การต่อบอล 1-2 ของอาร์เบลัว กับเคาท์ หน้าเขตโทษสำแดงผลก่อนที่แบ็คเลือดสเปนจะหลุดเข้าไปตบบอลจากเส้นหลังให้คีน วิ่งมาตวัดแปแต่บอลยังโดนไม่แรงเข้ามือโซเรนเซ่นอย่างน่าเสียดาย

อีก 2 นาที"หงส์แดง"พลาดโอกาสอีกครั้งเมื่อาอาร์เบลัว เปิดบอลจากกรอบโทษฝั่งขวาบอลโค้งสวยเป็นตอร์เรส ทะยานโขกแค่ 7 หลาแต่บอลเด้งพื้นหลุดออกเสาแบบไม่น่าเชื่อ

ตอน นี้เดอะค็อปร้องเร่งเอาประตูใหญ่หลังเห็นทีมรักเปิดเกมรุกลุยแหลกอย่างเมา มันแต่ไม่ง่ายเลยเพราะสโต๊ครับกันแน่นหน้าเขตโทษไปหมด

พอ เล่นไปถึงหนึ่งชั่วโมงตอนนี้สโต๊คลุ้นเอาประตูจากลูกเตะมุมมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีบอมบ์ใส่เข้าเขตโทษกดดันเจ้าถิ่นเป็นพักๆ

นาที 64 ลิเวอร์พูล สวนกลับขึ้นมาน่ากลัวก่อนคีน จะแทงบอลตัดหลังแบ็คให้เคาท์ หลุดถึงเส้นหลังแล้วตบเข้ากลางบอลเลยมาถึงตอร์เรส ที่วิ่งมาซัดเน้นๆด้วยอีซ้ายแต่บอลไปแฉลบแนวรับทีมเยือนข้ามคานออกไปอีก

อีก 3 นาทีเจอร์ราร์ด แทงให้เคาท์ จอมขยันวิ่งเข้าไปซัดหลอกเสาแรกแต่โซเรนเซ่นปัดทิ้งได้จากนั้นเคาท์ คนเดิมลากตัดเข้าในแล้วยิงด้วยอีซ้ายบอลหลุดเสาไกลออกไปเอง

นาที 69 "หงส์แดง"ยังวืดไปวืดมาเหมือนเดิมคราวนี้เป็นฟรีคิกเยื้องซ้ายระยะ 35 หลาคล้ายต้นเกมที่เจอร์ราร์ด ยิงเข้าไปแต่เหมือนถอดแบบจากลูกนั้นเป๊ะเมื่อหัวขิงวิ่งไปอัดไซด์บอลพุ่ง ผ่านทุกคนตกผ่านเสาแบบงงๆว่าไม่เข้าได้ไงโดยที่โซเรนเซ่นก็ออกมาปัดไม่ถึง แล้ว

ช่วงท้ายเจ้าถิ่นมาเป็นชุดแต่ลูกยิงไกลของเจอร์ราร์ด ยังไม่คายพิษสงไม่แฉลบออกหลังก็หวดออกไปเอง

ก่อนหมดเวลา 4 นาทีตอร์เรส เกือบสร้างปาฏิหารย์เมื่อบอลชุมมุนตรงเส้นกรอบโทษ 18 หลากริฟฟินพลาดแต่เอล นินโญ่หวดตูมเดียวบอลข้ามคานออกไปไกล

ช่วง เวลาที่เหลือหงส์แดงทุ่มกันสุดตัวทั้งยิงไกลเปิดออกข้างแต่ไม่สามารถเจาะแนว รับสโต๊คที่วันนี้คิดอะไรไม่ออกก็โหม่งทิ้งออกหลังจนเจ้าถิ่นได้เตะมุม เกือบ 20 ครั้งเข้าไปแล้ว หมดเวลาสโต๊คทำช็อกบุกมายันเสมอแบ่งแต้มหักปากกา เซียนครั้งใหญ่

รายชื่อผู้เล่น ของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล
โฆเซ่ เรน่า 6,อัลบาโร่ อัลเบลัว 6,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6,มาร์ติน สเคอร์เทล 6,อันเดรส ดอสเซนน่า 5,เดิร์ก เคาท์ 5,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 8,ชาบี้ อลอนโซ 7,อัลเบิร์ต ริเอร่า 5(บาเบิ้ล น.65,5),ร็อบบี้ คีน 4(เบนายูน น.73,6),เฟอร์นานโด ตอร์เรส 5

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่ ,แอกเกอร์ ,มาสเคราโน ,ไลว่า,เดเก้น

สโต๊ค
โธมัส โรเร นเซ่น 7,แอนดรูว์ กริฟฟิน 7,อับดุลาเย่ ฟาย 9*,อิบราฮิ ม ซงโก้ 5(คอร์ต น.22,8),แดนนี่ ฮิกกินบอมแธม 7,เลียม ลอว์เรนซ์ 6(เครส เวลล์ น.66,5),เซยี่ โอลอฟินยาน่า 7,ซาลิฟ ดิเยา 6,รอรี่ ดีแลป 6,เดฟ คิต สัน 5(ฟุลเลอร์ น.78,5 ),มามาดี้ ซิดิเบ้ 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ซิโมเซ่น,วีแลน,ทัง,วิลกินสัน

ข่าวจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ และ Soccersuck.com
ข่าวประจำวันที่ : 21 กันยายน 2551

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ยินดีต้อนรับสู่ hongsdang blog ครับ


สวัสดีตรับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกของลิเวอร์พูลในมุมมองของผมครับ ทำไมต้องหงส์แดง ผมก็ไม่รู้นะครับว่าเริ่มเล่นบอลหรือว่าดูบอลตั้งแต่ตอนไหน จำได้แต่ว่าตอนเด็กๆ ประมาณประถม 1 ได้มั่ง เคยได้ยินแต่ในทีวีข้างบ้าน ว่าลิเวอร์พูล ก็เลยมีโอกาสได้ไปยืนดูก็ตามประสาเด็กนะครับ ผมไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร แต่ให้ความรู้สึกว่ามันก็สนุกดี พอโตมาหน่อยเริ่มเล่นบอลก็เลยมีโอกาสได้รู้จักโลกของฟุตบอลมากขึ้น คำว่าลิเวอร์พูลในวัยเด็กมันเลยผุดขึ้นมาจากเมมโมรี่น้อยๆในสมอง ก็เลยติดตามดูตั้งแต่นั้นมา ถามว่าทำไมผมยังเป็นแฟนหงส์อยู่ทั้งที่ทีมไม่เคยได้แชมป์ลีกเลย ตลอด 20 ป๊ที่ผ่านมา การที่เราจะเชียร์ทีมไหนนั้นผมว่ามันเป็นบุคลิกและลักษณนิสัยของคนนะครับ ผมคิดว่าคนที่เชียร์ลิเวิร์พูลน่าจะเป็นคนที่มีอารมณ์โรแมนติกนะครับ เพราะผมมองว่าลิเวอร์พูลเป็นอะไรที่คลาสสิคมากๆ หากจะมองว่าเชียร์เพราะเล่นดี เล่นมันส์ เร้าใจแบบบู๊ล้างผลาญ ก็มีส่วนนะครับแต่คงไม่ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นทีมเล็กคงไม่มีใครเชียร์แน่นอน มันอยู่ที่ความผูกพันธ์มากกว่าเพราะผมรู้สึได้ว่าเวลาทีมแพ้ผมเศร้าและไม่กล้ารับโทรศัพท์ เพราะกลัวโดนเยาะ แต่วันไหนที่ชนะผมได้ยืดอกเต็มที่ สำหรับบล็อกแห่งนี้ผมก้ตั้งใจจะเอาไว้เก็บความทรงจำของเหล่าหงส์เอาไว้ มีอะไรก้คอมเมนส์กันได้เลยนะครับผมรู้ว่า ผมจะไม่มีวันเดินเดียวดาย I'll Never Walk Alone และคุณละ รักหงส์เชียร์หงส์เพราะอะไร